1. รสชาติยัง “คงที่” จริงไหม
ยอดขายตกหลายครั้งไม่ได้มาจากคู่แข่ง แต่มาจาก “ความไม่เสถียร” ในแก้วของเราเอง วันหนึ่งอร่อย อีกวันหนึ่งจืด ลูกค้าจะรู้ทันทีและหายไปแบบไม่บอก.
2. ลูกค้าเจอกับประสบการณ์แบบเดิมทุกครั้งหรือเปล่า
ร้านกาแฟคือร้านประสบการณ์ ถ้าวันนี้ยิ้ม วันพรุ่งนี้เฉย ๆ ลูกค้าจะ “ไม่กล้าเสี่ยง” จ่ายซ้ำ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะได้ความรู้สึกวันไหน.
3. เมนูของคุณยังตอบโจทย์ฤดูกาลไหม
บางร้านขายเมนูเดิมทั้งปี แต่ลูกค้าเปลี่ยนตามอากาศเสมอ ควรมีเมนูเย็นสดชื่นในหน้าร้อน และเมนูหอมละมุนช่วงฝนหรือหนาว.
4. ร้านสะอาดเหมือนวันแรกที่เปิดไหม
พื้นที่เสิร์ฟ สถานที่นั่ง ห้องน้ำ เคาน์เตอร์ ถ้าไม่ใส่ใจ ความรู้สึกที่ลูกค้าได้รับจะลดลงแบบเงียบ ๆ โดยที่ยอดขายจะตอบแทนทันที.

5. มีอะไรใหม่ให้ลูกค้ากลับมามั้ย
ไม่ต้องออกเมนูใหม่ทุกวัน แต่ต้องมี “จุดกระตุ้น” บ้าง เช่น วัตถุดิบพิเศษ เมล็ดใหม่ ลูกเล่นเล็ก ๆ ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาเช็กเสมอ.
6. คุณกำลังขายให้คนเดิม ๆ โดยไม่หาลูกค้าใหม่หรือไม่
ฐานลูกค้าเดิมสำคัญ แต่ร้านที่ยอดตกมักเป็นร้านที่ไม่มีคนใหม่เข้ามาเลย ลองดูป้ายร้าน หน้าร้าน โซเชียล ว่ามีแรงดึงดูดมากพอไหม.
7. ต้นทุนบานโดยที่คุณไม่รู้ตัว
ยอดขายลด แต่ต้นทุนเท่าเดิม = กำไรหาย ตรวจสอบเมล็ด นม วัตถุดิบ เครื่องปรุง รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ ที่สะสมทุกเดือน.
8. การตลาดเหมือนเดิมเกินไปหรือเปล่า
โพสต์ซ้ำ ๆ ภาพเดิม ๆ คำพูดเดิม ๆ ทำให้ลูกค้าเลื่อนผ่าน ลองเล่าเรื่องร้าน แชร์เบื้องหลัง รีวิวลูกค้า หรือให้ความรู้เรื่องกาแฟบ้าง.
9. คุณเหนื่อยเกินไปไหม จน “พลังงาน” ที่ส่งออกไปเปลี่ยนไป
บางครั้งลูกค้าไม่ได้หนีเพราะกาแฟ แต่หนีเพราะ “บรรยากาศในร้าน” ที่อึดอัด เงียบเกินไป หรือไม่เป็นมิตรเหมือนก่อน การพักเติมพลังเจ้าของร้านสำคัญที่สุด.