- หากพูดถึงธุรกิจร้านชานมไข่มุก หลายๆคนมักจะนึกถึง “แฟรนไซส์” เจ้าดังๆ อย่าง KOI,Alley,Ochaya,Nobicha,Marucha ที่ขายในราคา 19 - 140+ ความแตกต่างก็แล้วแต่แบรนด์ แต่ละรสชาติกันไป . - คำถามคือแล้วถ้าเราอยากทำแบรนด์ของเราเอง หรือเปิดร้านขายชานมไข่มุกบ้าง ต้องใช้เงินเท่าไหร่?
.
- ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า ตัวเองมีงบประมาณเท่าไร เพราะความหลากหลายของธุรกิจนี้มีตั้งแต่ลงทุนหลักหมื่น ไปจนถึงหลายแสนบาท
.
- โดยวิธีการเลือก ให้ไปศึกษาดูในแต่ละเจ้ามีวิธีขายกันอย่างไร เล็งไปที่แบรนด์ดังเลยก็ได้ จะทำให้เห็นไอเดียงานขายได้มากกว่า เพื่อหา ”จุดแข็ง” ของแต่ละเจ้า รวมไปถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เหมาะสมกับตัวเอง อย่างรสชาติแบบไหนถูกปากคนประเภทไหน
.
- เมื่อเราได้แบรนด์ที่ชอบ และลักษณะของร้านที่อยากเปิดแล้ว ต่อไปก็ควรไปดูทำเลที่จะเปิด หรือมองหาไว้ก่อน ว่าตรงกับทำเลที่เรามีอยู่ใกล้เคียงกับกลุ่มคนที่จะเป็น “ลูกค้า” เราหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน มหาลัย สถานศึกษา ห้างต่างๆ และสถานที่ทำงาน รวมไปถึงสถานที่มีคนไปมาอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้ในการประเมินได้อย่างถูกต้องที่สุด
.
- สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจนี้ ในกรณีที่ลงทุนทำเอง งบเริ่มต้นในการทำประมาณ 39,000- 150,000 บาท เป็นค่าอุปกรณ์ ค่าเช่าทำเลหน้าร้าน พนักงานหน้าร้าน ฯลฯ
.
- โดยหากเปิดร้านเอง แนะนำว่าสูตรในการชงมีเยอะมาก ทั้งเปิดสอนและในอินเตอร์เน็ต มีทั้งแบบฟรีไปยันถึงคอร์สเรียนราคาประมาณ 5,000-10,000 บาท
.
- ข้อดีของการเปิดร้านเอง คือเราสามารถออกแบบทุกอย่างเองได้ทั้งหมด ควบคุมต้นทุนทั้งรูปแบบหน้าร้าน โครงสร้างราคาและกำไร แต่มีข้อเสียคือ เราต้องออกแบบเบรนด์ให้ดี และต้องเหนื่อยหน่อยในช่วงแรก เพราะต้องโปรโมทจนกว่าแบรนด์จะเป็นที่รู้จัก
.
- และหากต้องการเปิดร้านชานมไข่มุกแบบ แฟรนไซส์เจ้าดัง หรือแบรนด์ที่ติดหู เจอในห้างบ่อยๆ เริ่มต้นที่ประมาณ 39,000 - 400,000 บาท
.
- ข้อดีของการซื้อแฟรนไซส์คือ มีระบบทุกอย่างรองรับ และจะขายง่ายกว่าการเปิดร้านเอง เพราะแบรนด์เป็นที่รู็จักแล้วพอสมควร ข้อเสียคือ จะไม่ค่อยยืดหยุ่นในด้านโครงสร้างต้นทุนและกำไร ทุกอย่างถูกกำหนดมาอย่างแน่นอนตามการตกลงในแต่ละเจ้าตามสัญญาเรียบร้อย
.
หากต้องการเปิดร้านแบบแบรนด์ใหญ่ๆ ราคาอาจจะมากกว่านี้ และมีรายเจ้าที่ทำเอง ไม่ได้เปิดแฟรนไซส์ ยกตัวอย่างเช่น
.
ร้านชานมไข่มุก KOI Thé (โคอิ เตะ) ปัจจุบันมีทั้งหมด 16+ สาขา เจ้าของคือ Ms. Khloe Ma เป็นชาวไต้หวัน แบรนด์นี้เปิดตลาดในไทยได้ประมาณ 3 ปี แต่รายได้พุ่งไปถึง 62 ล้านแล้ว! (ปี2018) เมื่อดูจากงบการเงินพบว่า กำไรของ KOI The อยู่ที่ประมาณ 12.9 % ของยอดขาย
.
- ธุรกิจชานมไข่มุก เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เรียกได้ว่า "ตามกระแส" การลงทุนจึงต้องระวังคอยติดตามเรื่องกระแสการบริโภคของลูกค้าให้ดี
- โดยข้อดีของตลาดนี้คือ มีความหลากหลายให้เลือกลงไปเล่น ทั้งในแง่ของราคาและทำเล จึงมีโอกาสในความเป็นไปได้อยู่พอสมควร ว่าอยากลงทุนในสเกลไหน
.
- ตัวเลขทั้งหมดนี้เป็นเพียงคร่าวๆ ให้ไว้เป็นไอเดีย หากอยากทำจริง ต้องศึกษาแบบชัดเจน ตั้งแต่ไปดูทำเล จนถึงข้อแตกต่างของในแต่ละแบรนด์ ก่อนการลงเงินจริง
.
ที่มา
ไปให้ถึง100ล้าน
https://www.facebook.com/screenkaw