ว่าด้วยเรื่องของ เมล็ดกาแฟ กระบวนการคั่วกาแฟไม่ได้มีแค่การให้ความร้อนกับเมล็ดกาแฟเท่านั้น แต่ถ้าหากพูดกันโดยภาพรวมยังมีความเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีที่ซับซ้อน ที่จะมีผลต่อเรื่องของรสชาติของกาแฟอีกด้วย เนื่องจากว่าปฏิกิริยาเหล่านี้ก่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่กลิ่นผลไม้และดอกไม้ ไปจนถึงกลิ่นถั่วและช็อกโกแลตเมื่อเมล็ดกาแฟได้รับความร้อน เมล็ดกาแฟจะเริ่มสูญเสียความชื้น จนทำให้กลายเป็นเมล็ดกาแฟคั่วอย่างที่เห็น รวมถึงยังได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย และสำหรับร้านกาแฟจะมีการแบ่งรูปแบบการคั่วเป็น 3 แบบหลักๆ เพื่อให้ระดับรสชาติตามที่ต้องการ
1.การคั่วอ่อน (Light Roasts)
2.การคั่วกลาง (Medium Roasts)
เป็นรูปแบบการคั่วที่มีความสมดุลมากที่สุด อุณหภูมิหลักที่จะใช้คือ 210-220 องศาเซลเซียส และพิเศษสำหรับคนที่ชอบกาแฟแบบกลมกล่อม เพราะจะได้รสชาติความหวาน และความขม และด้วยความที่รสชาติไม่ได้โดดไปทางไหนสักทางก็จะทำให้ดื่มได้ง่าย ทั้งคนรักกาแฟ และคนที่หัดดื่มก็สามารถที่จะดื่มได้ง่ายขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วระดับคั่วกลางที่นิยมกันนี้ มักจะนิยมกันอย่างมากในร้านกาแฟ เนื่องจากว่าจะเป็นรสชาติที่กลมกล่อมรวมถึงดื่มได้ง่ายๆ
3.การคั่วเข้ม (Dark Roasts)
เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับเมล็ดกาแฟ เรื่องของการใช้อุณหภูมิสำหรับการคั่วเมล็ดก็มีผลเช่นเดียวกัน เพราะสามารถที่จะปรับเปลี่ยนรสชาติได้ทันที หากว่าเป็นอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำมากจนเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เรียกว่าทางร้านค้าและผู้บริโภคเองก็ควรรู้ และเมล็ดกาแฟแต่ละประเภทนั้นก็เหมาะกับการขั้วที่ไม่เหมือนกันด้วย